Industrial Analytics คืออะไร?
จาก Excel สู่ Edge: การวิเคราะห์ข้อมูลในโรงงานยุค 4.0
ในอดีต “ข้อมูล” ของโรงงานมักถูกเก็บไว้ในแฟ้มกระดาษ หรืออย่างดีที่สุดคือใน Excel ที่มีตารางซับซ้อนจากการบันทึกของช่างและหัวหน้าไลน์ แต่โลกอุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว — เครื่องจักรในยุค Industry 4.0 ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรกลอีกต่อไป แต่คือ “แหล่งข้อมูล” ที่ส่งสัญญาณออกมาอย่างต่อเนื่องผ่าน Sensor, PLC, และระบบ SCADA
Industrial Analytics คือศาสตร์ของการ เก็บ วิเคราะห์ และแปลข้อมูลจากเครื่องจักร (OT: Operational Technology) มาผสมผสานกับข้อมูลจากระบบธุรกิจ (IT: Information Technology) เพื่อให้โรงงานสามารถตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ และขับเคลื่อนไปสู่การผลิตที่ “ฉลาดกว่าเดิม”
Industrial Analytics ต่างจาก BI ทั่วไปอย่างไร

หลายโรงงานอาจมีระบบ Business Intelligence (BI) อยู่แล้ว เช่น Power BI, Tableau หรือ Qlik ที่ใช้ทำรายงานยอดขายและต้นทุน แต่ Industrial BI หรือ Industrial Analytics มีความซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะข้อมูลในโรงงานไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข — มันคือ “เวลาจริง” และ “บริบทของเครื่องจักร”
1. Real-time Data:
ระบบทั่วไปอาจอัปเดตรายวันหรือรายชั่วโมง แต่ในโรงงาน เครื่องจักรทำงานตลอดเวลา ข้อมูลอุณหภูมิ แรงดัน กระแสไฟ หรือรอบการผลิตต้องถูกวิเคราะห์ “ขณะเกิดขึ้น” เพื่อให้รู้ทันปัญหา เช่น การสั่นสะเทือนผิดปกติของมอเตอร์ก่อนที่จะเสียหาย
2. Contextual Tagging:
ข้อมูลในโรงงานไม่ได้ลอยอยู่เดี่ยว ๆ แต่ต้อง “ผูก” กับ Asset หรือเครื่องจักรจริง เช่น Tag “Temp_01” ต้องรู้ว่ามันมาจากเครื่อง Extruder ตัวที่ 3 ในไลน์การผลิตไหน และทำงานใน Shift ใด นี่คือสิ่งที่ Industrial Analytics ทำได้ดีกว่า BI ทั่วไป
3. Integration กับ MES / SCADA:
Industrial Analytics ต้องเชื่อมโยงกับระบบการผลิตโดยตรง เช่น MES (Manufacturing Execution System) และ SCADA เพื่อดึงข้อมูลแบบ Real-time และเชื่อมโยงการวิเคราะห์เข้ากับระบบควบคุมจริง เช่น เมื่ออัตราผลิตตก ระบบสามารถแจ้งเตือนไปยัง Operator หรือปรับค่าพารามิเตอร์โดยอัตโนมัติ
จาก Sensor ถึง Dashboard: เส้นทางของข้อมูลในโรงงานอัจฉริยะ

-
Sensor & PLC Layer (OT)
ข้อมูลเริ่มต้นจาก Sensor ที่ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความเร็ว หรือแรงดัน ผ่าน PLC (Programmable Logic Controller) ซึ่งเป็นสมองของเครื่องจักร -
Edge & Gateway Layer
ข้อมูลจาก PLC จะถูกส่งผ่าน Industrial Gateway หรือ Edge Computer ซึ่งทำหน้าที่กรอง จัดรูปแบบ และส่งขึ้นระบบ Cloud หรือ Platform กลาง เช่น Ignition, Kepware, หรือ N3uron -
Data Platform Layer (IT)
ข้อมูลถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลแบบ Time-series (เช่น InfluxDB, Canary, PostgreSQL) เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมากจากทุกเครื่องจักร -
Analytics & Visualization Layer
ข้อมูลถูกวิเคราะห์และแสดงผลบน Dashboard แบบ Real-time เพื่อให้เห็นสถานะการผลิตทันที เช่น OEE, Downtime, Energy Usage, หรืออุณหภูมิที่ผิดปกติ
เส้นทางนี้คือ “วงจรชีวิตของข้อมูลโรงงาน” ที่เปลี่ยนจากเพียงการเก็บข้อมูล ไปสู่ Industrial Intelligence — การใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเสีย
ทำไมโรงงานยุคใหม่ต้องใช้ Industrial Analytics
- ตัดสินใจได้เร็วกว่า: จากการเห็นข้อมูลจริงของเครื่องจักรแบบ Real-time
- ลด Downtime และ Maintenance Cost: ด้วยการตรวจจับสัญญาณผิดปกติก่อนเครื่องเสีย
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (OEE): วิเคราะห์คอขวดและปรับปรุงการผลิตเชิงลึก
- เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแหล่งเข้าด้วยกัน (IT + OT): เพื่อให้เห็นภาพรวมของโรงงานใน Dashboard เดียว
สรุป
Industrial Analytics คือหัวใจของการเปลี่ยนผ่านสู่ Smart Factory อย่างแท้จริง
จากยุคที่ข้อมูลอยู่ใน Excel มาสู่ยุคที่ทุก Sensor และเครื่องจักรพูดคุยกันได้ — ข้อมูลกลายเป็นพลังขับเคลื่อนการผลิตที่แม่นยำ โปร่งใส และยั่งยืน