Skip to Content

Industrial Analytics คืออะไร? เข้าใจการวิเคราะห์ข้อมูลโรงงานจาก OT สู่ IT ในยุค Industry 4.0

เข้าใจว่า industrial analytic คืออะไรและมีความสำคัญิย่างไรกับโรงงานของคุณ
29 ตุลาคม ค.ศ. 2025 โดย
Industrial Analytics คืออะไร? เข้าใจการวิเคราะห์ข้อมูลโรงงานจาก OT สู่ IT ในยุค Industry 4.0
IO Tech, sivakorn.m Meteesothon

Industrial Analytics คืออะไร?

จาก Excel สู่ Edge: การวิเคราะห์ข้อมูลในโรงงานยุค 4.0

ในอดีต “ข้อมูล” ของโรงงานมักถูกเก็บไว้ในแฟ้มกระดาษ หรืออย่างดีที่สุดคือใน Excel ที่มีตารางซับซ้อนจากการบันทึกของช่างและหัวหน้าไลน์ แต่โลกอุตสาหกรรมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว — เครื่องจักรในยุค Industry 4.0 ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องจักรกลอีกต่อไป แต่คือ “แหล่งข้อมูล” ที่ส่งสัญญาณออกมาอย่างต่อเนื่องผ่าน Sensor, PLC, และระบบ SCADA

Industrial Analytics คือศาสตร์ของการ เก็บ วิเคราะห์ และแปลข้อมูลจากเครื่องจักร (OT: Operational Technology) มาผสมผสานกับข้อมูลจากระบบธุรกิจ (IT: Information Technology) เพื่อให้โรงงานสามารถตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ และขับเคลื่อนไปสู่การผลิตที่ “ฉลาดกว่าเดิม”


Industrial Analytics ต่างจาก BI ทั่วไปอย่างไร

industrial BI

หลายโรงงานอาจมีระบบ Business Intelligence (BI) อยู่แล้ว เช่น Power BI, Tableau หรือ Qlik ที่ใช้ทำรายงานยอดขายและต้นทุน แต่ Industrial BI หรือ Industrial Analytics มีความซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะข้อมูลในโรงงานไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข — มันคือ “เวลาจริง” และ “บริบทของเครื่องจักร”

1. Real-time Data:

ระบบทั่วไปอาจอัปเดตรายวันหรือรายชั่วโมง แต่ในโรงงาน เครื่องจักรทำงานตลอดเวลา ข้อมูลอุณหภูมิ แรงดัน กระแสไฟ หรือรอบการผลิตต้องถูกวิเคราะห์ “ขณะเกิดขึ้น” เพื่อให้รู้ทันปัญหา เช่น การสั่นสะเทือนผิดปกติของมอเตอร์ก่อนที่จะเสียหาย

2. Contextual Tagging:

ข้อมูลในโรงงานไม่ได้ลอยอยู่เดี่ยว ๆ แต่ต้อง “ผูก” กับ Asset หรือเครื่องจักรจริง เช่น Tag “Temp_01” ต้องรู้ว่ามันมาจากเครื่อง Extruder ตัวที่ 3 ในไลน์การผลิตไหน และทำงานใน Shift ใด นี่คือสิ่งที่ Industrial Analytics ทำได้ดีกว่า BI ทั่วไป

3. Integration กับ MES / SCADA:

Industrial Analytics ต้องเชื่อมโยงกับระบบการผลิตโดยตรง เช่น MES (Manufacturing Execution System) และ SCADA เพื่อดึงข้อมูลแบบ Real-time และเชื่อมโยงการวิเคราะห์เข้ากับระบบควบคุมจริง เช่น เมื่ออัตราผลิตตก ระบบสามารถแจ้งเตือนไปยัง Operator หรือปรับค่าพารามิเตอร์โดยอัตโนมัติ


จาก Sensor ถึง Dashboard: เส้นทางของข้อมูลในโรงงานอัจฉริยะ

รวมข้อมูลไปที่แดชบอร์ด

  1. Sensor & PLC Layer (OT)
    ข้อมูลเริ่มต้นจาก Sensor ที่ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความเร็ว หรือแรงดัน ผ่าน PLC (Programmable Logic Controller) ซึ่งเป็นสมองของเครื่องจักร
  2. Edge & Gateway Layer
    ข้อมูลจาก PLC จะถูกส่งผ่าน Industrial Gateway หรือ Edge Computer ซึ่งทำหน้าที่กรอง จัดรูปแบบ และส่งขึ้นระบบ Cloud หรือ Platform กลาง เช่น Ignition, Kepware, หรือ N3uron
  3. Data Platform Layer (IT)
    ข้อมูลถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลแบบ Time-series (เช่น InfluxDB, Canary, PostgreSQL) เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลจำนวนมากจากทุกเครื่องจักร
  4. Analytics & Visualization Layer
    ข้อมูลถูกวิเคราะห์และแสดงผลบน Dashboard แบบ Real-time เพื่อให้เห็นสถานะการผลิตทันที เช่น OEE, Downtime, Energy Usage, หรืออุณหภูมิที่ผิดปกติ

เส้นทางนี้คือ “วงจรชีวิตของข้อมูลโรงงาน” ที่เปลี่ยนจากเพียงการเก็บข้อมูล ไปสู่ Industrial Intelligence — การใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเสีย


ทำไมโรงงานยุคใหม่ต้องใช้ Industrial Analytics

  • ตัดสินใจได้เร็วกว่า: จากการเห็นข้อมูลจริงของเครื่องจักรแบบ Real-time
  • ลด Downtime และ Maintenance Cost: ด้วยการตรวจจับสัญญาณผิดปกติก่อนเครื่องเสีย
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (OEE): วิเคราะห์คอขวดและปรับปรุงการผลิตเชิงลึก
  • เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแหล่งเข้าด้วยกัน (IT + OT): เพื่อให้เห็นภาพรวมของโรงงานใน Dashboard เดียว

สรุป

Industrial Analytics คือหัวใจของการเปลี่ยนผ่านสู่ Smart Factory อย่างแท้จริง

จากยุคที่ข้อมูลอยู่ใน Excel มาสู่ยุคที่ทุก Sensor และเครื่องจักรพูดคุยกันได้ — ข้อมูลกลายเป็นพลังขับเคลื่อนการผลิตที่แม่นยำ โปร่งใส และยั่งยืน

turned on monitoring screen

ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ
Industrial Analytics
อยู่ที่นี้แล้ว

อ่านเ​​​​​​​​​​พิ่ม