ส่วนที่ 1: ส่วนติดต่อผู้ปฏิบัติงาน (Operator Interfaces)

นี่คือ หัวใจหลักของ CMMS โดยพื้นฐานแล้วคือหน้าจอสมาร์ทโฟนและหน้าจอเดสก์ท็อปที่ช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการ:
- บันทึก ข้อมูลอุปกรณ์
- สร้าง, มอบหมาย, และติดตาม งานบำรุงรักษา
- เฝ้าติดตาม สต็อกสินค้าคงคลัง (Inventory)
- ส่งข้อความ ถึงช่างเทคนิคซ่อมบำรุง
- ติดตาม ประวัติสินทรัพย์
ส่วนที่ 2: แดชบอร์ดรายงาน (Reporting Dashboards)

แดชบอร์ดเหล่านี้จะ สังเคราะห์ ข้อมูลที่คุณรวบรวมไว้ให้เป็น รายงานที่ขับเคลื่อนด้วย KPI (ดัชนีชี้วัดผลงานหลัก) ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ ความไร้ประสิทธิภาพของกระบวนการ ได้
- ตัวอย่างเช่น: คุณอาจสร้างรายงานเปรียบเทียบเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสินทรัพย์ในปี 2019 กับปี 2020 ก่อนตัดสินใจซื้อสินทรัพย์ถาวร (Capital Purchase Decision)
ส่วนที่ 3: การตั้งค่าผู้ดูแลระบบ (Administrative Settings)

ส่วนนี้อนุญาตให้ผู้ดูแลระบบ CMMS ปรับแต่งสิทธิ์การเข้าถึงตามผู้ใช้งาน (user-based permissions) สำหรับสมาชิกทีมต่างๆ
- ผู้ดูแลระบบสามารถจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้
- สร้าง เทมเพลตใบสั่งงาน (work order templates)
- กำหนดคุณสมบัติของ ตัวกรองการค้นหา (search filter specifications)
ส่วนที่ 4: ฐานข้อมูล (Databases)

สำหรับระบบซ่อมบำรุงออนไลน์ที่ทันสมัย ฐานข้อมูล มักจะอยู่บน "คลาวด์" (in the cloud) อย่างไรก็ตาม ระบบรุ่นเก่าบางระบบยังคงถูกตั้งค่าให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กร (in-house servers)
- ข้อดีของการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์คือ ความสามารถในการปรับขนาดที่ไร้ขีดจำกัด (unlimited scalability), ความสามารถในการเข้าถึง, และ ความปลอดภัย/ความซ้ำซ้อนของข้อมูล (data security/redundancy)
