Skip to Content

Data Historian คืออะไร? คู่มือสำหรับผู้ทำระบบ IIoT และฝ่ายวิศวกรรมโรงงาน

Data Historian เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อเก็บ Time-Series Data โดยเฉพาะ และทำให้การเชื่อมต่อ วิเคราะห์ และบูรณาการข้อมูลในระบบโรงงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
5 กันยายน ค.ศ. 2025 โดย
Data Historian คืออะไร? คู่มือสำหรับผู้ทำระบบ IIoT และฝ่ายวิศวกรรมโรงงาน
IO Tech, sivakorn.m Meteesothon

ในการสร้างระบบ IIoT (Industrial Internet of Things) หรือการพัฒนาสถาปัตยกรรม Smart Factory สิ่งที่หลายคนต้องเผชิญคือ การจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลจากเครื่องจักรและเซ็นเซอร์

ตรงนี้เองที่ Data Historian เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อเก็บ Time-Series Data โดยเฉพาะ และทำให้การเชื่อมต่อ วิเคราะห์ และบูรณาการข้อมูลในระบบโรงงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

Data Historian คืออะไร?

data historian

Data Historian คือฐานข้อมูลเชิงเวลา (Time-Series Database) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บและจัดการข้อมูลจากเครื่องจักร, PLC, DCS, SCADA และอุปกรณ์ภาคสนามในโรงงาน โดยจุดเด่นคือ:

  • รองรับการเขียน/อ่านข้อมูลที่มีความถี่สูง (High-frequency data)
  • มีระบบบีบอัดข้อมูล (Compression) เพื่อลดพื้นที่จัดเก็บโดยไม่เสียความแม่นยำ
  • สามารถดึงข้อมูลย้อนหลังเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิต

บทบาทของ Data Historian ในระบบ IIoT

  1. Data Acquisition Layer
    • เก็บข้อมูลจาก PLC, SCADA, Gateway และ IoT Devices
    • รองรับโปรโตคอลอุตสาหกรรม เช่น OPC UA, MQTT, Modbus
  2. Data Storage & Management
    • เก็บข้อมูลระยะยาวเป็นศูนย์กลาง (Single Source of Truth)
    • รองรับการ Query และดึงข้อมูลผ่าน API
  3. Data Integration
    • เชื่อมต่อไปยังระบบ MES, ERP, BI หรือ AI/ML Platform
    • ทำงานร่วมกับ Cloud Services เพื่อการวิเคราะห์เชิงลึก
  4. Analytics & Visualization
    • เรียกดูแนวโน้ม (Trend), Alarm, และ Event Analysis
    • ใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับการสร้าง Dashboard, OEE, Energy Monitoring, หรือ Predictive Maintenance

ทำไมผู้ทำระบบ IIoT ควรเลือกใช้ Data Historian

historian data

  • รองรับ Real-time Data & High Volume: ทำงานได้แม้ข้อมูลจากหลายพันแท็ก/วินาที
  • เพิ่มความเสถียรของระบบ: ทำหน้าที่เป็น Buffer ระหว่าง Layer ของ OT และ IT
  • ยืดหยุ่นในการ Integrate: ทำงานได้ทั้ง On-Premise และ Cloud
  • รองรับ Use Case หลากหลาย:
    • Energy Management
    • Predictive Maintenance
    • Quality Tracking & Traceability
    • Production Performance Analysis

คุณสมบัติที่ควรพิจารณาในการเลือก Data Historian

  • Scalability: รองรับจำนวนแท็กที่เพิ่มขึ้นตามการขยายของโรงงาน
  • Protocol Support: รองรับการเชื่อมต่ออุตสาหกรรมมาตรฐาน (OPC UA, MQTT, REST API)
  • Data Compression & Retention: จัดเก็บข้อมูลได้ยาวนาน โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพ Query ลดลง
  • Integration Ready: สามารถเชื่อมต่อกับ MES, ERP หรือ AI Platform ได้สะดวก
  • Security: รองรับการจัดการสิทธิ์และเข้ารหัสข้อมูล (Data Security)

สำหรับ ผู้ทำระบบ IIoT หรือฝ่าย IT/Engineering ของโรงงาน การมี Data Historian เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้สถาปัตยกรรมโรงงานอัจฉริยะมีเสถียรภาพ สามารถจัดการข้อมูลมหาศาลได้อย่างเป็นระบบ และรองรับการต่อยอดสู่ AI, Analytics และ Smart Factory ในอนาคต

หากคุณกำลังมองหาโซลูชัน Data Historian ที่เชื่อมต่อได้หลากหลาย มีความยืดหยุ่น และพร้อมใช้งานกับระบบโรงงานจริง Appomax พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยคุณวางระบบได้ครบวงจร