การทำงานในสาย Industrial หรืออุตสาหกรรมการผลิต เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยโอกาส ทั้งในแง่การพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และรายได้ที่มั่นคง วันนี้แอดมินขอมาเขียนบทความในรูปแบบที่เป็นกันเอง ไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับ น้องๆนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ หรือว่าจบการศึกษาแล้ว แล้วกำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายงานอุตสาหกรรม แอดมินขอให้บทความนี้ มีประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ และก็บทความนี้แอดมินอาจจะเน้นไปที่งานประเภท อุตสาหกรรม 4.0 นิดนึงนะครับ
สายงาน Industrial มีอะไรบ้าง?
สายงานในอุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากๆ แอดมินได้ลองเข้าไปค้นหาข้อมูลมาแล้วพบว่าชื่อตำแหน่งในสายงานนี้เยอะมากๆ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้นก็ขึ้น อยู่กับ ประเภทของบริษัท นั้นๆด้วยว่าเป็นประเภทไหน ถ้าอยากดูเต็มๆว่า แต่ละที่แตกต่างยังไง ลองเข้าไปอ่านบทความที่ชื่อว่า "บริษัทอุตสาหกรรมแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง"
ส่วนวันนี้ แอดมินขอรวบงานอุตสาหกรรม และแตกออกมาให้เข้าใจง่ายๆ แบ่งออกเป็นสามสายดังนี้:
1.Technician - สายเทคนิค
สายเทคนิคเป็นสายงานในอุตสาหกรรม ที่ใช้ความเข้าใจในโครงสร้างของอุตสาหกรรมนั้นๆสูง เช่นเราต้องการเป็น วิศวกรโรงงาน (แผนกไฟฟ้า) เราก็มีความจำเป็นที่ต้องเข้าใจอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ภายในโรงงาน สามารถซ่อม หรือใช้งานเป็น โดยงานสายเทคนิคที่แอดมินว่ามานั้น
ลักษณะของคนในสายนี้:
- ชอบลงมือทำ ทดลอง แก้ปัญหาหน้างาน
- มีความรู้ทางวิศวกรรมและเทคนิคเฉพาะสูง
- มักอยู่ใกล้กับเครื่องจักรหรือหน้างานจริง
ตัวอย่างตำแหน่งในสายเทคนิค:
- Automation Engineer / Control Engineer
- Mechanical Engineer / Electrical Engineer
- Process Engineer / Maintenance Engineer
- Instrumentation Engineer
- Production Engineer / Manufacturing Engineer
สายนี้คือเส้นทางของ “คนทำจริง” ที่ขับเคลื่อนโรงงานให้เดินได้ทุกวัน และเป็นพื้นฐานสำคัญสำ
2.Management - สายการจัดการ
สายนี้คือกลุ่มของ “ผู้นำระบบ” ผู้วางแผน กำหนดกลยุทธ์ และบริหารทีมให้เครื่องจักรกับคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิศวกรในสายนี้ต้องเข้าใจทั้งเทคนิคและการบริหาร เช่น การจัดการโครงการ (Project Management), การบริหารงบประมาณ, การปรับปรุงกระบวนการผลิต และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผน
ลักษณะของคนในสายนี้:
- มองภาพรวมได้ดี
- ชอบบริหารทีมและประสานงานหลายฝ่าย
- มีทักษะทั้งด้านเทคนิคและการจัดการ
ตัวอย่างตำแหน่งในสายการจัดการ:
- Production Manager / Plant Manager
- Project Manager / Program Manager
- Engineering Manager / Operation Manager
- Continuous Improvement Manager
- Industrial Engineering Lead
สายนี้เหมาะกับคนที่อยาก “ก้าวจากวิศวกรสู่ผู้นำ” มีเป้าหมายชัดและมองโรงงานเป็นระบบภาพรวมมากกว่าจุดปัญหาเดียว
3.Sales & Solution - สายการขายและโซลูชัน
สายนี้คือการผสมผสานระหว่าง “เทคนิค” และ “การสื่อสาร” คนในสายนี้มักมาจากพื้นฐานวิศวกรรม แต่มีความสามารถในการนำเสนอ อธิบายเทคโนโลยีให้ลูกค้าเข้าใจ และช่วยออกแบบโซลูชันให้ตรงกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม
ลักษณะของคนในสายนี้:
- เข้าใจเทคโนโลยีและสามารถอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้
- ชอบสื่อสาร พบปะลูกค้า และแก้ปัญหาทางธุรกิจ
- มีความคิดเชิงกลยุทธ์และมองเห็นโอกาสทางการตลาด
ตัวอย่างตำแหน่งในสายการขายและโซลูชัน:
- Sales Engineer / Solution Engineer
- Business Development Engineer
- Application Engineer / Presales Engineer
- Key Account Manager / Product Specialist
สายนี้เหมาะกับคนที่อยากใช้ “ความรู้ทางวิศวกรรม” เพื่อสร้างคุณค่าทางธุรกิจและเป็นจุดเชื่อมระหว่างลูกค้ากับทีมเทคนิคภายในองค์กร
Manufacturing Career Path
สายงาน | จุดเริ่มต้น | เส้นทางเติบโต | ปลายทางอาชีพ |
สายเทคนิค | Engineer / Technician | Specialist → Expert | Technical Director / Consultant |
สายการจัดการ | Project Engineer /project coordinator | Project Manager → Plant Manager | Director |
สายการขาย | Sales Engineer | Key Account → Sales Manager | Business Development Director |
จะต้องจบการศึกษาอะไรบ้าง?
ที่จริงแล้ว แอมินมั่นใจว่า พื้นฐานของการเข้าสู่งานสายอุตสาหกรรมคือการเรียนในด้านวิศวกรรมหรือเทคนิคอุตสาหกรรม โดยสาขาที่ตอบโจทย์ที่สุดคือ
- Instrumentation Engineering (วิศวกรรมเครื่องมือวัด): เจาะลึกการใช้งาน Sensor, Control, Calibration
- Automation & Control Engineering (วิศวกรรมออโตเมชัน): เชี่ยวชาญ PLC, SCADA, IoT, Robotics
- Mechatronics (เมคคาทรอนิกส์): ผสมผสานไฟฟ้า, เครื่องกล, คอมพิวเตอร์ เพื่อออกแบบระบบอัตโนมัติ
- Mechanical / Electrical Engineering: สาขาพื้นฐานที่ยังเป็นที่ต้องการเสมอ
- Industrial Engineering: เน้นการวิเคราะห์กระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม
สรุป
งานสาย Industrial เป็นมากกว่าการทำงานในโรงงาน เพราะมันคือเส้นทางอาชีพที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี, การจัดการ และการพัฒนาธุรกิจไปพร้อมกัน ใครที่อยากเติบโตในยุค Industry 4.0 ต้องมองให้กว้างกว่าแค่เครื่องจักร แต่ควรมองถึงระบบอัตโนมัติ, IoT, และการใช้ Data Analytics เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน