Skip to Content

เส้นทางอาชีพสาย Industrial Career Path: จากโรงงานสู่อนาคตอุตสาหกรรม 4.0

วันนี้แอดมินขอมาเขียนบทความในรูปแบบที่เป็นกันเอง ไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับ น้องๆนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ หรือว่าจบการศึกษาแล้ว แล้วกำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายงานอุตสาหกรรม
7 ตุลาคม ค.ศ. 2025 โดย
เส้นทางอาชีพสาย Industrial Career Path: จากโรงงานสู่อนาคตอุตสาหกรรม 4.0
IO Tech, sivakorn.m Meteesothon

การทำงานในสาย Industrial หรืออุตสาหกรรมการผลิต เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยโอกาส ทั้งในแง่การพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และรายได้ที่มั่นคง วันนี้แอดมินขอมาเขียนบทความในรูปแบบที่เป็นกันเอง ไว้เป็นไกด์ไลน์ให้กับ น้องๆนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ หรือว่าจบการศึกษาแล้ว แล้วกำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่สายงานอุตสาหกรรม แอดมินขอให้บทความนี้ มีประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ และก็บทความนี้แอดมินอาจจะเน้นไปที่งานประเภท อุตสาหกรรม 4.0 นิดนึงนะครับ 

สายงาน Industrial มีอะไรบ้าง?

สายงานในอุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากๆ แอดมินได้ลองเข้าไปค้นหาข้อมูลมาแล้วพบว่าชื่อตำแหน่งในสายงานนี้เยอะมากๆ ซึ่งในแต่ละตำแหน่งนั้นก็ขึ้น อยู่กับ ประเภทของบริษัท นั้นๆด้วยว่าเป็นประเภทไหน ถ้าอยากดูเต็มๆว่า แต่ละที่แตกต่างยังไง ลองเข้าไปอ่านบทความที่ชื่อว่า "บริษัทอุตสาหกรรมแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง" 

ส่วนวันนี้ แอดมินขอรวบงานอุตสาหกรรม และแตกออกมาให้เข้าใจง่ายๆ แบ่งออกเป็นสามสายดังนี้:

1.Technician - สายเทคนิค 

สายเทคนิคเป็นสายงานในอุตสาหกรรม ที่ใช้ความเข้าใจในโครงสร้างของอุตสาหกรรมนั้นๆสูง เช่นเราต้องการเป็น วิศวกรโรงงาน (แผนกไฟฟ้า) เราก็มีความจำเป็นที่ต้องเข้าใจอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ภายในโรงงาน สามารถซ่อม หรือใช้งานเป็น โดยงานสายเทคนิคที่แอดมินว่ามานั้น 

ลักษณะของคนในสายนี้:

  • ชอบลงมือทำ ทดลอง แก้ปัญหาหน้างาน
  • มีความรู้ทางวิศวกรรมและเทคนิคเฉพาะสูง
  • มักอยู่ใกล้กับเครื่องจักรหรือหน้างานจริง

ตัวอย่างตำแหน่งในสายเทคนิค:

  • Automation Engineer / Control Engineer
  • Mechanical Engineer / Electrical Engineer
  • Process Engineer / Maintenance Engineer
  • Instrumentation Engineer
  • Production Engineer / Manufacturing Engineer

สายนี้คือเส้นทางของ “คนทำจริง” ที่ขับเคลื่อนโรงงานให้เดินได้ทุกวัน และเป็นพื้นฐานสำคัญสำ

2.Management - สายการจัดการ

สายนี้คือกลุ่มของ “ผู้นำระบบ” ผู้วางแผน กำหนดกลยุทธ์ และบริหารทีมให้เครื่องจักรกับคนทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิศวกรในสายนี้ต้องเข้าใจทั้งเทคนิคและการบริหาร เช่น การจัดการโครงการ (Project Management), การบริหารงบประมาณ, การปรับปรุงกระบวนการผลิต และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผน

ลักษณะของคนในสายนี้:

  • มองภาพรวมได้ดี
  • ชอบบริหารทีมและประสานงานหลายฝ่าย
  • มีทักษะทั้งด้านเทคนิคและการจัดการ

ตัวอย่างตำแหน่งในสายการจัดการ:

  • Production Manager / Plant Manager
  • Project Manager / Program Manager
  • Engineering Manager / Operation Manager
  • Continuous Improvement Manager 
  • Industrial Engineering Lead

สายนี้เหมาะกับคนที่อยาก “ก้าวจากวิศวกรสู่ผู้นำ” มีเป้าหมายชัดและมองโรงงานเป็นระบบภาพรวมมากกว่าจุดปัญหาเดียว

3.Sales & Solution  - สายการขายและโซลูชัน

สายนี้คือการผสมผสานระหว่าง “เทคนิค” และ “การสื่อสาร” คนในสายนี้มักมาจากพื้นฐานวิศวกรรม แต่มีความสามารถในการนำเสนอ อธิบายเทคโนโลยีให้ลูกค้าเข้าใจ และช่วยออกแบบโซลูชันให้ตรงกับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม

ลักษณะของคนในสายนี้:

  • เข้าใจเทคโนโลยีและสามารถอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้
  • ชอบสื่อสาร พบปะลูกค้า และแก้ปัญหาทางธุรกิจ
  • มีความคิดเชิงกลยุทธ์และมองเห็นโอกาสทางการตลาด

ตัวอย่างตำแหน่งในสายการขายและโซลูชัน:

  • Sales Engineer / Solution Engineer
  • Business Development Engineer
  • Application Engineer / Presales Engineer
  • Key Account Manager / Product Specialist

สายนี้เหมาะกับคนที่อยากใช้ “ความรู้ทางวิศวกรรม” เพื่อสร้างคุณค่าทางธุรกิจและเป็นจุดเชื่อมระหว่างลูกค้ากับทีมเทคนิคภายในองค์กร

Manufacturing Career Path

สายงาน จุดเริ่มต้น เส้นทางเติบโต ปลายทางอาชีพ
สายเทคนิค Engineer / Technician Specialist → Expert Technical Director / Consultant
สายการจัดการ Project Engineer /project coordinator Project Manager → Plant Manager Director 
สายการขาย Sales Engineer Key Account → Sales Manager Business Development Director

จะต้องจบการศึกษาอะไรบ้าง?

ที่จริงแล้ว แอมินมั่นใจว่า  พื้นฐานของการเข้าสู่งานสายอุตสาหกรรมคือการเรียนในด้านวิศวกรรมหรือเทคนิคอุตสาหกรรม โดยสาขาที่ตอบโจทย์ที่สุดคือ

  • Instrumentation Engineering (วิศวกรรมเครื่องมือวัด): เจาะลึกการใช้งาน Sensor, Control, Calibration
  • Automation & Control Engineering (วิศวกรรมออโตเมชัน): เชี่ยวชาญ PLC, SCADA, IoT, Robotics
  • Mechatronics (เมคคาทรอนิกส์): ผสมผสานไฟฟ้า, เครื่องกล, คอมพิวเตอร์ เพื่อออกแบบระบบอัตโนมัติ
  • Mechanical / Electrical Engineering: สาขาพื้นฐานที่ยังเป็นที่ต้องการเสมอ
  • Industrial Engineering: เน้นการวิเคราะห์กระบวนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม

สรุป

งานสาย Industrial เป็นมากกว่าการทำงานในโรงงาน เพราะมันคือเส้นทางอาชีพที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี, การจัดการ และการพัฒนาธุรกิจไปพร้อมกัน ใครที่อยากเติบโตในยุค Industry 4.0 ต้องมองให้กว้างกว่าแค่เครื่องจักร แต่ควรมองถึงระบบอัตโนมัติ, IoT, และการใช้ Data Analytics เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ใน Event News