Project Proposal: Digital MES & CMMS Solution for Smart Manufacturing

Customer: Molex Phillips-Medisize (Thailand)

Submitted by: Appomax Co., Ltd.

Date: July 2025

Version: 2.0

1. Executive Summary (ภาพรวมโครงการ)

Molex Phillips-Medisize (Thailand) มีเป้าหมายในการยกระดับศักยภาพการผลิตสู่มาตรฐาน Smart Manufacturing โดยมุ่งเน้นการพัฒนา ระบบบริหารการผลิต (MES) และ ระบบบริหารงานซ่อมบำรุง (CMMS) ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลในโรงงานแบบครบวงจร และสนับสนุนการตัดสินใจด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์

Appomax เสนอแนวทางการพัฒนาโซลูชันบนแพลตฟอร์ม Ignition โดยใช้โมเดลมาตรฐาน ISA-95 เพื่อจัดระเบียบข้อมูลการผลิต และเชื่อมต่อกับระบบ ERP อย่างเป็นระบบ พร้อมเสริมด้วย Dashboard สำหรับผู้ปฏิบัติงาน วิศวกร และฝ่ายบริหาร ครอบคลุมทั้ง Machine Status, OEE, Work Order Execution, และงานซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)

ระบบที่พัฒนาจะช่วยให้โรงงาน:

• มีความโปร่งใสในการผลิต (Production Visibility) ผ่านข้อมูลจากเครื่องจักรและสถานีปฏิบัติงานแบบ Real-Time

• เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Operational Efficiency) ด้วยระบบจัดลำดับงาน, แจ้งเตือนอัตโนมัติ และรายงานผลผลิตทันที

• สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ (Data-Driven Decision Making) ด้วยข้อมูลที่เชื่อถือได้จากระบบเดียว

โครงการนี้จะวางรากฐานสำหรับการขยายสู่ระบบ QMS, Inventory Control, และ AI-Driven Analytics ในอนาคต รองรับการเติบโตของธุรกิจและมาตรฐานสากลในอุตสาหกรรมการผลิต

2. Project Objectives (วัตถุประสงค์ของโครงการ)

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา Digital Platform ที่ช่วยยกระดับการดำเนินงานของโรงงานให้มีความแม่นยำ มีข้อมูลเรียลไทม์ และสื่อสารระหว่างฝ่ายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายหลักดังนี้:

1. พัฒนาระบบติดตามการผลิตแบบ Real-Time

   เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกระดับสามารถเห็นสถานะเครื่องจักร, ผลผลิต, OEE และ Downtime แบบทันทีผ่าน Web Dashboard

2. ปรับปรุงกระบวนการจัดลำดับและควบคุม Work Order

   ให้สามารถดำเนินการและติดตามได้จากหน้างาน พร้อมระบบ Feedback กลับ ERP อย่างแม่นยำ

3. จัดตั้งระบบงานซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)

   เพื่อวางแผนล่วงหน้า, จัดการ Spare Part Inventory และลด Breakdowns โดยไม่คาดคิด

4. เพิ่มความสามารถในการเก็บข้อมูลจากสถานีตรวจสอบคุณภาพ (Test Station)

   รวมถึงข้อมูลจาก Operator และผลตรวจสอบแบบ Auto Record

5. วางรากฐานข้อมูลตามมาตรฐาน ISA-95

   เพื่อให้สามารถขยายต่อสู่ระบบ QMS, Inventory Tracking และ AI ในอนาคต

3. ขอบเขตงาน (Scope of Work)

Appomax จะดำเนินการออกแบบและพัฒนาระบบ MES และระบบสนับสนุนอื่น ๆ ตามความต้องการของลูกค้า โดยแบ่งขอบเขตงานออกเป็น 6 กลุ่มโซลูชันหลัก ดังนี้:

Solution 1: MES Starter Package with ERP Integration

โซลูชันนี้เป็นรากฐานของระบบ MES เพื่อบริหารการผลิตแบบเรียลไทม์ (Real-Time Execution) โดยเชื่อมโยงการวางแผนการผลิตจาก ERP กับการปฏิบัติงานในหน้างาน

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• พัฒนา MES Data Model สำหรับการติดตามสถานะเครื่องจักร (Machine Status), Downtime, OEE

• จัดทำ Andon Dashboard สำหรับการแจ้งเตือนและแสดงสถานะการทำงาน

• ออกแบบระบบการจัดการ Work Order, Schedule และ Production Run

• พัฒนา Work Order Queue Management เพื่อใช้ในการจัดลำดับและกระจายงาน

• เชื่อมต่อระบบกับ ERP (เช่น SAP หรือระบบอื่น) ผ่าน Standard API หรือ Custom Interface สำหรับ:

  • การ Sync ข้อมูล Work Order และ Schedule

  • การ Feedback ผลการผลิต (Production Result)

  • การ Integration ของ Master Data (Product, Routing, Work Center)

• พัฒนา Web Dashboard และระบบควบคุมสิทธิ์ผู้ใช้งาน (User Access Control & Security)

Solution 2: Ignition Test Station Application

โซลูชันนี้เป็นระบบแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานในแต่ละสถานี (Station-Level) เพื่อสนับสนุนกระบวนการตรวจสอบคุณภาพและบันทึกการทำงานของ Operator

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• พัฒนา Quality Inspection & Auto Record System สำหรับการบันทึกผลการตรวจสอบ

• ระบบแสดงผล Real-Time Station Status Monitor

• พัฒนา Operator Work Summary & Activity Log สำหรับใช้วิเคราะห์ประสิทธิภาพรายบุคคล

Solution 3: AI Project for Test Station

ระบบเสริมอัจฉริยะ (AI Enhancement) สำหรับสถานีตรวจสอบที่ต้องการระบบจดจำและบันทึกอัตโนมัติจากหน้าจออุปกรณ์หรือเครื่องมือวัด

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• พัฒนาโมดูล Auto Screen Capture & Value Archiving

• ใช้งาน OCR (Optical Character Recognition) สำหรับอ่านค่าจากหน้าจอ

• บันทึกผลลงฐานข้อมูลอย่างถูกต้องและเชื่อมโยงกับ Work Order

Solution 4: Machine Monitoring Package

โซลูชันสำหรับการแสดงภาพรวมของข้อมูลจากเครื่องจักร เช่น Trend Analysis, Real-Time Monitoring และ Dashboard สำหรับวิศวกร

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• การบันทึกข้อมูลย้อนหลัง (Historical Logging)

• การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis)

• พัฒนา Digital Twin SCADA Dashboards สำหรับเครื่องจักรแต่ละประเภท

• ออกแบบ Web Dashboard แบบ Responsive เพื่อรองรับผู้ใช้หลายระดับ

Solution 5: MES / ERP Integration Package (Standalone)

ระบบเชื่อมต่อ MES กับ ERP สำหรับโครงการที่ต้องการเฉพาะการส่งผ่านข้อมูลโดยไม่ต้องพัฒนา MES เต็มระบบ

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• เชื่อมต่อ Work Order & Schedule Sync

• ส่งกลับ Production Result Feedback

• เชื่อมโยง Master Data Integration (เช่น Product, Work Center, Routing)

• พัฒนา Interface แบบ Standard REST API หรือ Custom Adapter

หมายเหตุ: ไม่รวมฟังก์ชันการบันทึกและตัดสต็อก Material Usage

Solution 6: CMMS Package

ระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุง (Computerized Maintenance Management System) สำหรับอุปกรณ์ในโรงงาน ทั้ง Preventive และ Corrective Maintenance

รายละเอียดงานประกอบด้วย:

• การขึ้นทะเบียน Asset & Equipment

• ระบบกำหนดตารางการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (PM Scheduling)

• การแจ้งซ่อมฉุกเฉิน (Corrective / Breakdown Request)

• ระบบติดตาม Task และความคืบหน้า

• ระบบจัดการ Spare Part Inventory

• บันทึกประวัติการซ่อมบำรุง และการคำนวณต้นทุน

• ระบบแจ้งเตือน (Notification & Alert)

• แสดงผลผ่าน Dashboard และ Report สำหรับ KPI ซ่อมบำรุง

ตาราง Mapping: Customer Requirements (18 Pain Points) → Proposed Solutions

4. Functional Specification (รายละเอียดฟังก์ชันการทำงาน)

ระบบที่พัฒนาในโครงการนี้ประกอบด้วยฟังก์ชันหลักตามกลุ่มโซลูชันที่กำหนดไว้ โดยแต่ละกลุ่มมีรายละเอียดการทำงาน ดังนี้:

4.1 MES Starter Package with ERP Integration

โซลูชันนี้ออกแบบมาเพื่อบริหารกระบวนการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่รับ Work Order จาก ERP ไปจนถึงติดตามสถานะจริงของการผลิต, การคำนวณ OEE, การบันทึกเหตุการณ์การหยุดเครื่อง, การแสดงผลแบบ Real-Time รวมถึงโครงสร้างข้อมูลที่สามารถขยายได้ตามมาตรฐาน ISA-95

1) Production Execution Management

2) Real-Time Production Scorecard

3) Downtime Tracking, Machine State History & Andon

4) OEE Calculation Engine

5) Master Data Model & ISA-95 Hierarchy

4.2 Ignition Test Station Application

แอปพลิเคชันนี้ออกแบบสำหรับสถานีตรวจสอบคุณภาพ (Test Station) ที่ใช้งานจริงในสายการผลิต โดยมุ่งเน้นการเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการป้อนข้อมูลซ้ำ และสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ทั้งในเชิงวิเคราะห์คุณภาพและประสิทธิภาพของแรงงาน

Functional Overview

User Roles Supported

Expected Benefits

• ลดการกรอกข้อมูลผิดพลาดจาก Manual Entry

• เพิ่มความเร็วในการตรวจสอบและลงผล

• สร้างฐานข้อมูลคุณภาพที่สามารถเชื่อมโยงกับ OEE และระบบ ERP ได้

• เสริมความสามารถในการ Track ผลงาน Operator

4.3 AI Project for Test Station

ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อเสริมขีดความสามารถของสถานีตรวจสอบ (Test Station) โดยใช้เทคโนโลยี AI เช่น Optical Character Recognition (OCR) และ Auto Screen Capture เพื่อเก็บข้อมูลจากเครื่องมือวัด หรือจอแสดงผลอัตโนมัติ ลดการป้อนค่าด้วยมือของ Operator

Functional Overview

Example Use Cases

Expected Benefits

• ลดเวลาในการกรอกข้อมูลต่อชิ้นงาน

• เพิ่มความแม่นยำ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลการตรวจสอบ

• เก็บหลักฐานเพื่อรองรับการตรวจสอบย้อนหลัง และการพิสูจน์คุณภาพ

• วางรากฐานสำหรับระบบ AI Vision ที่สามารถเรียนรู้และตัดสินผลได้ในอนาคต

4.4 Machine Monitoring Package

ระบบนี้ออกแบบเพื่อให้วิศวกร, หัวหน้างาน, และผู้บริหารสามารถ ติดตามสถานะเครื่องจักร และวิเคราะห์ข้อมูลการทำงานเชิงลึกได้แบบ Real-Time และย้อนหลัง โดยใช้ Ignition Perspective เป็น Web-based Platform เพื่อรองรับการเข้าถึงจากทุกระดับในโรงงาน

Functional Overview

Technical Constraints & Assumptions

• ข้อมูลจาก Tag Historian จะถูกเก็บใน PostgreSQL Database ความละเอียด 1 นาที (Analog) และ On-Change สำหรับ Boolean

• ระบบ Playback รองรับการดูย้อนหลังแบบ Timeline Play สูงสุด 30 วันต่อครั้ง

• Dashboard ได้รับการออกแบบสำหรับ Web Browser ที่ใช้งานร่วมกับ Ignition Perspective

• ทีมพัฒนาจะดำเนินการปรับจูน Performance ช่วง UAT และกำหนดกลุ่ม Tag ที่จำเป็นต้องแสดงผล (เพื่อไม่โหลดระบบเกินจำเป็น)

Expected Benefits for Molex

• ช่วยให้หัวหน้างานและวิศวกรสามารถวิเคราะห์ Downtime ย้อนหลังได้แม่นยำ

• รองรับ การตรวจสอบกระบวนการผลิตแบบ Online และ Retrospective โดยไม่ต้องรอรายงาน

• เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการ เชื่อมต่อกับระบบ CMMS หรือ Alarm Analytics ในอนาคต

4.5 MES / ERP Integration Package

ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบ MES กับระบบ ERP ของ Molex (เช่น SAP, Oracle หรืออื่น ๆ) เพื่อให้การส่งต่อ Work Order และ Feedback ผลผลิตเป็นไปอย่างแม่นยำ อัตโนมัติ และตรวจสอบได้

Functional Overview

Data Mapping Example

Expected Benefits for Molex

• ลดงานแมนนวลในการถ่ายข้อมูลระหว่างฝ่ายวางแผนและฝ่ายผลิต

• ป้องกันปัญหาการคีย์ข้อมูลผิดพลาด และลด Time Lag ระหว่าง MES ↔ ERP

• ช่วยให้การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตมีความแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลที่ Sync แบบ 2 ทาง

4.6 CMMS Package (Computerized Maintenance Management System)

ระบบ CMMS ของ Appomax ถูกออกแบบให้ครอบคลุมกระบวนการบำรุงรักษาแบบครบวงจร ตั้งแต่การแจ้งขอซ่อม (Maintenance Request), การวางแผน PM, การจัดการใบงานซ่อม, การดำเนินการ CM, การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ (MTTR/MTBF), และการแสดงผลแบบ Dashboard เพื่อช่วยลด Downtime และยกระดับ Reliability ของเครื่องจักรภายในโรงงาน Molex

1) Maintenance Request

2) Work Order Management

3) Preventive Maintenance (PM) Scheduling

4) Corrective Maintenance (CM) Execution

5) Performance Analysis (MTTR / MTBF)

6) Dashboard & Notification

5. Out of Scope (ขอบเขตงานที่ไม่ครอบคลุมในโครงการนี้)

แม้โครงการนี้จะครอบคลุมระบบหลักด้าน MES, CMMS และ ERP Integration แต่ยังมีบางฟังก์ชันที่ไม่อยู่ในขอบเขตของการดำเนินงานในระยะนี้ ซึ่งอาจพิจารณาเพิ่มเติมในเฟสถัดไปหรือเป็นโครงการแยกในอนาคต ดังนี้:

5.1 Inventory Management

• ไม่รวมการเชื่อมโยงกับ Material Usage Inventory (วัตถุดิบที่ใช้จริง)

• ไม่รวมระบบการตัดสต็อก, การบริหารคลังวัตถุดิบ, และการควบคุม Lot/Batch

• ไม่รวม BOM Consumption Tracking

หมายเหตุ: สามารถวางโครงสร้าง Master Data ไว้ในระบบ MES เพื่อรองรับการขยายในอนาคต

5.2 Quality Management System (QMS)

• ไม่รวมระบบบันทึก QN (Quality Notification), CAR/PAR, หรือการจัดการ Complaint

• ไม่รวมระบบ Audit, GMP Checklist, หรือ CAPA Workflow

• ไม่รวมระบบติดตามคุณภาพย้อนกลับ (Traceability) ในระดับ Lot-to-Customer

5.3 AI Vision Inspection

• ระบบ OCR อยู่ในขอบเขต (Solution 3) แต่ ยังไม่รวมการตรวจสอบคุณภาพแบบ AI Vision ด้วยกล้องความเร็วสูง, Model Training, หรือ Defect Classification แบบ Image-based

• ไม่รวม Hardware เช่น Industrial Camera, Light Controller, หรือ Edge AI Device

หมายเหตุ: มีแนวทางสำหรับการเพิ่มระบบ AI Vision ในเฟสถัดไป โดยใช้ข้อมูลพื้นฐานจาก Test Station เดิม

5.4 Full Manufacturing Scheduling

• ไม่รวมการวางแผนระดับ Plant-wide Scheduling (Finite Capacity Scheduling หรือ APS)

• ไม่รวมการ Reschedule อัตโนมัติจาก Constraint เช่น Machine Availability หรือ Material Delay

5.5 Multi-Site Deployment

• โครงการนี้เน้นการใช้งานระดับ “Site เดียว” (Single-Site Deployment)

• ไม่รวมการกระจายระบบ MES / CMMS ไปยังหลายโรงงาน หรือการทำ Centralized Monitoring Across Sites

6. Project Implementation Timeline (ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 เดือน)

โครงการจะดำเนินงานภายในระยะเวลา 5 เดือน โดยแบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่มหลัก (Workstreams) ได้แก่:

• MES & ERP Integration

• Test Station & AI Capture

• Machine Monitoring & Historian

• CMMS (Maintenance System)

ทั้ง 4 Workstreams จะดำเนินงานไป พร้อมกันแบบขนาน โดยมีช่วง Sync ร่วมกันในช่วง UAT และ Go-Live ดังนี้:

เดือนที่ 1: Kickoff & Design

ในเดือนแรก ทีมงานจะดำเนินการ Kickoff โครงการร่วมกับทีม Molex เพื่อทบทวนความต้องการ และจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโมดูล พร้อมกับกำหนดชื่ออุปกรณ์, สถานีตรวจสอบ, เครื่องจักร, และทรัพย์สินที่จะนำเข้าระบบ

• ทีม MES จะสร้าง Data Model ตามโครงสร้าง ISA-95 และกำหนด Flow สำหรับ Work Order, Production Run, และ OEE

• ทีม Test Station จะออกแบบ UI สำหรับการบันทึกผลตรวจสอบและเตรียมแผนการเชื่อมต่อ OCR

• ทีม Monitoring จะเตรียมโครงสร้างการจัดเก็บ Historical Data และ Tag ที่ต้องการแสดงผล

• ทีม CMMS จะรวบรวมรายการ Asset และออกแบบ Flow สำหรับ Maintenance Request และ Work Order

เดือนที่ 2: Core Development – Phase 1

เข้าสู่ช่วงพัฒนาโครงสร้างหลักของแต่ละระบบ

• MES จะเริ่มพัฒนา Work Order Execution, Queue Management และการ Feedback ข้อมูลไปยัง ERP

• Test Station จะเริ่มพัฒนา UI สำหรับการตรวจสอบคุณภาพและบันทึกข้อมูล

• Monitoring จะสร้าง Dashboard เบื้องต้นและเชื่อมต่อกับ Tag Historian

• CMMS จะพัฒนาหน้าจอขอซ่อม (Request) และระบบสร้างใบงานซ่อม (Work Order Management)

เดือนที่ 3: Core Development – Phase 2

ทีมงานดำเนินการเสริมฟีเจอร์ให้สมบูรณ์ และเริ่มทดสอบระบบภายใน (Internal Test)

• MES เพิ่ม OEE Calculation และ Andon Display พร้อมทดสอบการรับ-ส่งข้อมูลกับ ERP

• Test Station รวม OCR Capture และระบบเก็บภาพพร้อมข้อมูลตรวจสอบอัตโนมัติ

• Monitoring สร้าง Trend Analysis และฟังก์ชัน Playback ย้อนหลัง

• CMMS สร้างตาราง PM (Preventive Maintenance), ระบบแจ้งซ่อม CM และ Logic สำหรับ MTTR / MTBF

เดือนที่ 4: Integration Test & UAT Preparation

เป็นช่วงทดสอบระบบแบบรวม และเตรียมสำหรับ User Acceptance Test (UAT)

• ทุก Workstream เตรียม Scenarios ทดสอบร่วมกัน เช่น Start Run → บันทึกผล → ตรวจสอบคุณภาพ → Feedback กลับ ERP

• สคริปต์ UAT ถูกจัดทำและแชร์ให้ทีม Molex ทดสอบ

• ระบบการแจ้งเตือน, การอนุมัติ, และการวิเคราะห์เชิง KPI ถูกปรับแต่งให้พร้อมใช้งานจริง

เดือนที่ 5: UAT, Training & Go-Live

เดือนสุดท้ายของโครงการเน้นการทดสอบจริง, การฝึกอบรม, และเปิดใช้งานระบบในหน้างาน

• ดำเนินการ UAT อย่างเป็นทางการกับทีม Molex ในทุกโมดูล

• แก้ไขตามความคิดเห็นจากผู้ใช้งาน

• ฝึกอบรมผู้ใช้แยกตามบทบาท ได้แก่ Operator, Engineer, Supervisor และ Admin

• ระบบถูกเปิดใช้งานจริง (Go-Live) พร้อมมีทีม Support ติดตามในระยะเริ่มต้น